วันจันทร์

บทที่ 10 ธรรมชาติของมนุษย์

เอาล่ะค่ะ ทราบกันหรือไม่คะว่าการที่มนุษย์กระทำ หรือจะตัดสินใจลงมือทำอะไรนั้น มีที่มาจาก 2 ภาวะอารมณ์คือ รัก กับ กลัว
เป็นต้นว่า ความรักคือ ความยินดี ปรารถนาดี ความสำเร็จ การได้มาของสิ่งที่ปรารถนา ความปิติยินดี ความสุข การช่วยเหลือแบ่งปัน รวมไปถึงการดึงดูด
และความกลัว คือ การป้องกันตัวเอง ความเศร้าโศก การผลักไส ความตึงเครียด อิจฉาริษยา เห็นแก่ตัว ความเจ็บปวด
ดังนั้นธรรมชาติของมนุษย์ซึ่งจะพยายามเลี่ยงภาวะจากความกลัว ก่อนจะเลือกภาวะแห่งความรักเสมอ เช่น มนุษย์เลือกที่จะเลี่ยงความรู้สึกเจ็บปวดก่อน แม้จะพอมองเห็นแล้วว่า ถ้าเราทำอย่างนั้นเราจะได้รับความสำเร็จ และความสุข เช่น คนที่ทำเครือข่ายส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่เฉยๆแทนที่จะทำงาน เพราะไม่อยากถูกปฏิเสธ
แล้วเราจะทำการตลาดแบบเข้าใจธรรมชาติมนุษย์ได้อย่างไร?
จง อย่า พยายามที่จะขายอะไรให้เค้าไงคะ เนื่องจากว่ามนุษย์จะมีระบบป้องกันตัวเอง
ธรรมชาติอีกข้อนึงของมนุษย์คือ ชอบซื้อ คิดดูนะคะ ถ้าวันนี้ คุณได้เงินมาสัก 10 ล้าน ดิฉันว่าสื่งแรกที่คุณจะนึกถึงก็คือ การใช้เงินในการซื้อ ซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อกระเป๋า ซื้อคอมใหม่ ซื้อ โทรศัพท์รุ่นล่าสุด (ทั้งๆไอ้ที่มีก็ยังใหม่) ซื้อ ซื้อ ซื้อ อะไรอีกเยอะเลย
ธรมมชาติอีกข้อนึง ข้อสามนะคะ ไม่ชอบง้อ ถามสักนิดนะคะ คุณที่ทำเครือข่าย หรือไม่ได้ทำก็ตามคุณชอบง้อคนไหมคะ แล้วย้อนไปดู ในท่านที่ทำเครือข่ายก่อนนะคะ การที่คุณพยายามโน้มน้าวคน สาธิตสินค้า พยายามปิดการขาย คุณกำลังง้อคนอยู่หรือไม่คะ และคุณสบายใจหรือชอบไหมคะ
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดก็คือ คุณกำลังทำการตลาดแบบฝีนธรรมชาติค่ะ ไม่ว่าจากคนที่คุณแนะนำ หรือตัวคุณเอง เพราะคุณกำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะขาย โน้มน้าวเต็มที่ แต่คนที่คุณพยายามที่จะขาย ก็กำลังพยายามที่จะเลี่ยงหนีออกไป เพราะไม่อยากถูกขายนั่นเอง
การตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติ คือการทำการตลาดแบบไม่ง้อใคร และคุณเองต้องนำเสนอในสิ่งที่เค้าก็ต้องการอยู่แล้ว หรือสามารถแก้ปัญหาให้เค้าได้ ไม่ใช่ทำการโน้มน้าวให้เค้าเริ่มสนใจ เช่น หากคุณกำลังพยายามขายเนื้อชั้นดี เกรดเอให้กับคนกินมังสวิรัต ไม่ว่าเนื้อของคุณจะมีคุณภาพเยี่ยมยอด ดีมากมายแค่ไหน เค้าก็ไม่ซื้อคุณค่ะ
ดังนั้นหากคุณจะขายเนื้อ คุณก็ต้องกรองคนก่อนว่าเค้าอยู่ในข่ายที่ชอบทาน ถ้าจะให้ดีย่างขึ้นก็ต้องกรองด้วยว่าเค้าชอบกินแบบเนื้อชั้นดี แล้วคุณค่อยไปทำการตลาดกับคนแบบนี้ค่ะ
นั่นคือในการทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาตินั้น คุณต้องทราบกลุ่มเป้าหมายก่อนว่าคือใคร อย่างที่สองคือสินค้านั้นมีวิธีการที่จะเข้าถึงความต้องการเค้าอย่างไร และอย่างที่สามคือทำอย่างไรจึงจะเข้าสู่เป้าหมายได้ เมื่อเข้าใจทั้งหมดนี้ ก็เริ่มวางกลยุทธ์ได้เลยค่ะ
อ่านมาถึงตอนนี้แล้วมองออกแล้วนะคะ ว่าเราจะทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติอย่างไร บนพื้นฐานที่ไม่ต้องง้อใครและไม่ทำให้เค้ารู้สึกว่าถูกขาย
สนใจเข้ารับข้อมูลเพิ่มเดิมเพื่อคลายความล้มเหลวในเครือข่ายคุณ กับการตลาดแบบ Attraction Marketing รับข้อมูลทาง ออนไลน์ฟรี โดยสามารถกรอกข้อมูลได้ที่ http://stop-failure-mlm.com/ หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ http://kusumamlmexpert.com/ ค่ะ

วันเสาร์

บทที่ 9 การติดตามผล

คุณทราบใช่มั๊ยคะ จากรายชื่อที่คุณได้มา คุณจะต้องทำการติดตามเค้าครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะน้อยถึงน้อยมากที่คุณจะไปคุยธุรกิจกับเค้าเพียงครั้งแรกแล้วเค้าจะตกลงทำในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคนใหม่ด้วยแล้ว การตอบข้อโต้แย้งก็จะยิ่งเป็นงานหนักที่สร้างความหวาดหวั่นให้คุณ หากคุณก้าวข้ามไม่ได้ เผลอๆคุณก็จะเลิกทำไปเลย
ดังนั้น “ถ้าธุรกิจเครือข่ายไหน ไม่มีระบบติดตามอัตโนมัติ (หรือ Email Marketing) อย่าไปทำเด็ดขาด” เพราะคุณต้องทำงานอย่างหนัก คุณต้องมีรายชื่อมากพอ (มากๆๆๆๆ) และต้องเก็บข้อมูลให้เป็นระเบียบเพื่อทำการติดตามเค้าถูก ประมาณว่าต้องจำได้ว่าเคยคุยไปถึงใหนแล้ว หากคุณเป็นคนขยัน คิดว่าจะต้องแบกแฟ้มต่างๆไหวไหมคะ ไหนจะต้องโทรศัพท์อีกล่ะ ทั้งหาคนใหม่ๆ ติดตามคนเก่าๆ แล้วคุณจะทราบมั๊ยล่ะค่ะ ว่าจริงๆแล้วคนที่คุณกำลังติดตามผลอยู่นั้น เค้าสนใจธุรกิจจริงๆหรือไม่ เมื่อคุณโทรไปเค้ามีสมาธิ รอคอยคุณอยู่หรือเปล่า ???? ตอนที่คุณโทร อารมณ์คุณเอื้อหรือเปล่าด้วยค่ะ
มีคนไม่น้อยนะคะ ที่กรอกเข้ามาเพียงแค่อยากรู้ ตามสถิติแล้วใน 100 คนที่กรอกข้อมูลเข้ามานั้น มีเพียง 2 -3 คนเท่านั้นที่สนใจแบบจริงจัง ส่วนที่เหลือล่ะ อีก 97 – 98 คนนั้น คุณก็ยังต้องตามต่อไปด้วยความไม่รู้จริงไหมคะ
และยิ่งหากคุณเป็นคนใหม่ คุณก็ยังไม่สามารถสัมผัสได้อีกว่าจากน้ำเสียง เค้าจริงจังหรือเปล่า ยิ่งคุยยิ่งงง พอถูกปฏิเสธ ที่ปรึกษาคุณยังบอกว่า ไม่เป็นไร “ก็แค่ทำต่อไป หาคนที่ใช่” ต้องหาอีกมากมายแค่ใหนคะ ต้องโทรศัพท์อีกกี่ร้อยสายคะ และเมื่อรายชื่อหมด เค้าให้คุณซื้อรายชื่ออีกใช่ไหมคะ ยิ่งเค้าบอกว่ารายชื่อนี้คุณภาพดี ก็ยิ่งแพง ใช่ไหมคะ กว่าจะรู้ เสียเงินไปจนมีหนี้สิน ดูๆไปเหมือนการพนัน จ่ายไปเพื่อบางทีจะเจอตัวจริง... เหนื่อยค่ะ
การสร้างความสัมพันธ์เป็นสิ่งจำเป็นค่ะ เพราะไม่มีใครที่จะซื้อหรือเข้าร่วมทำเครือข่าย, ธุรกิจกับคนที่ไม่รู้จักแบบง่ายๆหรอกค่ะ ตามสถิตินะคะ คนที่เข้าร่วมเครือข่าย ส่วนมากจะเข้าร่วมเมื่อถูกติดตามผลอย่างน้อย 7 ครั้ง!!!ดังนั้น การติดตามแค่ครั้งสองครั้งของคุณนั้น เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นค่ะ...
คราวนี้ คุณรู้หรือยังคะว่าทำไมระบบเดิมๆที่ต้องไล่ล่าโทรศัพท์นั้นถึงล้มเหลว เพราะคุณมั่นใจมั๊ยล่ะคะว่าคุณจะกล้าโทรหาคนเหล่านั้นได้ถึง 7 ครั้ง..... คุณเองล่ะคะ ถ้ามีคนเดิมๆโทรมามากขนาดนั้น คุณจะพูดกับเค้าว่าอย่างไร ยิ่งไม่ได้รู้จักกันมาก่อนด้วยนะคะ เป็นดิฉันก็คงจะบอก “ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ดิฉันไม่สะดวกแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ” จบค่ะ คุณเสียรายชื่อนั้นไป
การติดตามผ่านทาง Email Marketing เป็นสิ่งที่จำเป็นมากค่ะ เพราะคุณเอง
· ไม่ต้องเหนื่อยคุยกับคนมากมาย หรือโทรศัพท์เป็นร้อยๆสาย เพราะระบบอีเมล์จะติดตามให้แทน
· เป็นการกรองคนที่เข้ามาแล้วในขั้นแรก กรองเฉพาะคนที่สนใจเท่านั้น คุณจึงไม่ต้องเหนื่อยกับคนที่ไม่ได้สนใจจริงๆ
· ทำให้คนที่อาจจะไม่สนใจในตอนแรกกลับมาสนใจในธุรกิจที่เรานำเสนอ ดังนั้นจากเดิมที่ๆปรึกษาคุณเคยบอกคุณว่า ให้คุณคุยกับคนทุกคนที่เจอ คุยให้ได้วันละ 5 – 10 คน ทุกคนคือผู้มุ่งหวัง จริงๆแล้วก็เป็นความคิดเดียวกันค่ะ แต่วิธีแบบเดิมๆที่ใช้นั้นไม่เวิร์คค่ะ อีเมล์ที่เราส่งไปจะค่อยๆโน้มน้าวให้เค้ามาศึกษาสิ่งที่เรานำเสนอมากขึ้นแทน
· เป็นระบบที่โปรโมทความเป็นมืออาชีพของคุณอีกทางนึง ที่จะทำให้คุณกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ และเริ่มสร้างความเชื่อมั่น, ศรัทธาให้กับเขาได้ค่ะ
เอาล่ะ อ่านมาถึงตรงนี้คุณอาจจะกำลังคิดว่า เอาล่ะ งั้นชั้นจะเลิกโทรศัพท์ละ แต่จะส่งเมล์หาคนสนใจแทน อันนี้ต้องดูด้วยนะคะ ว่า
· จะเป็นการ spam เมล์หรือเปล่า ระบบที่ได้แนะนำนี้ต้องเป็นระบบที่ถูกกฎหมาย และสามารถยืนยันจากคนที่รับเมล์เราได้ว่าเค้าเหล่านั้นต้องการรับข่าวสารจากเราและสามารถยกเลิกการรับข่าวสารนี้ได้หากไม่พอใจที่จะรับต่อ หากคุณคิดจะทำการซื้อ Program ดูดเมล์ ส่งเมล์ คุณก็จะยังคงทำผิดวิธีค่ะ เพราะก็ยังมีคนมที่เค้าไม่ได้อยากรับข่าวสารของคุณอยู่ในนั้นอยู่นั่นเอง และผิดกฎหมายค่ะ
· ข้อความในการติดตามผลสำคัญมากค่ะเนื้อหานั้นจะแสดงความเป็นมืออาชีพของคุณ ข้อความนั้นกำลังดึงดูดคนหรือไล่คนหนี... มั่นใจอย่างไรว่าสิ่งที่คุณเขียนนั้นเวิร์คพอ
· ไม่มีใครอยากเป็นคนถูกขาย คุณกำลังส่งสารไปขายของหรือธุรกิจเพียงอย่างเดียวหรือเปล่า หากคุณไม่ได้คุณค่าอะไรกับเค้าเลย แน่ใจได้หรือคะว่าเค้าจะมาสนใจสิ่งที่คุณส่งไปให้เค้า
· เมล์ที่คุณส่งไปให้เค้าเป็นการพูดคุยหรือเปล่า เมล์ที่คุณส่งไปเรียกชื่อเค้า เช่น “สวัสดีค่ะ คุณนงนุช” หรือ “สวัสดีค่ะ ท่านผู้สนใจ” คุณกำลังเพียงแค่หว่านแหอยู่หรือเปล่า คุณว่าจริงหรือไม่ คำพูดที่หวานหูที่สุด คือการเรียกชื่อของเขาเอง และเมล์ที่คุณส่งก็ต้องโฟกัสกับเขาเท่านั้นเช่นกัน
· ในขณะที่คุณกำลังส่งเมล์เป็นกลุ่มจำนวนมากนี้ คุณคิดว่าจะทำไหวมั๊ยคะหากปราศจากระบบอัตโนมัติ? เกิดวันนี้มีนัด ขี้เกียจ เบื่อ ไม่มีอารมณ์ ไฟดับ คอมเสีย ทะเลาะกับแฟน อยู่ต่างจังหวัด ไปเที่ยวอยู่ ฯลฯ
อ่านมาถึงตรงนี้เห็นด้วยกับการมีระบบ Email Marketing ติดตามอัตโนมัติหรือยังคะ?
สนใจเข้ารับข้อมูลเพิ่มเดิมเพื่อคลายความล้มเหลวในเครือข่ายคุณ กับการตลาดแบบ Attraction Marketing รับข้อมูลทาง ออนไลน์ฟรี โดยสามารถกรอกข้อมูลได้ที่ http://stop-failure-mlm.com/ หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ http://kusumamlmexpert.com/ ค่ะ
กุสุมา สาตราภัย – CEO Secret4Success

วันพฤหัสบดี

บทที่ 8 การสร้างรายชื่อผู้ที่สนใจ (ผู้มุ่งหวัง)

จากบทความที่ผ่านมา หากคุณได้ลองเอาไอเดียไปปรับใช้กับธุรกิจ หรือธุรกิจเครือข่ายของคุณ ดิฉันแน่ในเลยค่ะ ว่าคุณได้พบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อย่างแรกคือทัศนคติที่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นในการทำงานอย่างแน่นอน และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ “ระบบ” ค่ะ คุณจะต้องสร้างระบบของคุณขึ้นมาด้วย

วันนี้เราจะมาเรียนรู้ การสร้างรายชื่อผู้ที่สนใจ หรือที่เค้าเรียกกันว่า ผู้มุ่งหวัง หรือ Prospect นั่นแหละค่ะ ตามแต่องค์กรณ์คุณจะเรียกก็แล้วกัน วิธีการที่เราจะสร้างนั้นในปัจจุบัน (ย้ำ ปัจจุบัน) เราจะมีวิธีใหนได้บ้าง
1. การโฆษณาตามเวปบอร์ดต่างๆ วิธีนี้มีหลายๆคน หลายๆธุรกิจทำกันเป็นวิธีแรกๆเลยก็ว่าได้ แต่นะคะ จำนวนรายชื่อและคุณภาพของรายชื่อที่เข้ามายังต้องอาศัยหลายๆปัจจัยเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความนิยมของเวปนั้น section ที่ลง แต่ว่า....ตอนนี้ข้อเสียได้เกิดขึ้นแล้วค่ะ เพราะการโฆษณาทำนองนี้ กลายเป็นเหมือนขยะในเวปแทน เหมือน junk mail ใน email เรานั่นเองค่ะ เพราะแค่คุณเห็นคำโปรย คุณก็จะผ่านมันไป เพราะใครก็เริ่มรู้สึกเบื่อและรำคาญ ดูกี่เวปๆก็เจอ บางทีไม่เกี่ยวกับหัวข้อที่คลิ๊กไปก็เจอ น่ารำคาญมั๊ยล่ะ ยังพอใช้ได้แต่ต้องเปลี่ยนวิธีค่ะ
2. การส่งเมล์หาคนสนใจ ไม่ว่าจะจากโปรแกรมดูดเมล์ที่ซื้อมา หรืออะไรก็ตาม หากไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของเมล์ อันนั้นผิดกฏหมายค่ะ ต้องระวัง เพราะ ถือเป็นการ spam mail มีเรื่องเล่าค่ะ มีคนในสายงานคนนึง เค้าใช้วิธีส่งเมล์นี้ แต่เค้าส่งให้เพื่อนนะคะ ย้ำ เพื่อนค่ะ ทีนี้เพื่อนรำคาญ ส่งเรื่องเข้าไป ผลคือ โดนแบนลิงค์ ต้องสมัครทำธุรกิจใหม่ไปเลยเชียว ระวังค่ะ เพราะกระทั่งเปอร์เซ็นต์การตอบรับเองก็น้อยมากๆ ไม่ถึง แม้ครึ่งเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ
3. การ Forwards mail อันนี้ ไม่ใช่ forwards ธุรกิจนะคะ เปลี่ยนเป็นบทความดีๆ หรือความรู้ต่างๆจะดีกว่าค่ะ แล้วให้ link ของคุณพร้อมคำโปรยดีๆอยู่ที่ signature ของ mail คุณแทน
4. การโพสกระทู้ อันนี้คล้ายการทำโฆษณาตามเวปค่ะ แต่ คุณไม่ต้องเสียเงิน วิธีนี้ฟรี ค่ะ ฟรี โดยคุณต้องใช้เวลาในการทำงาน และคุณภาพอาจไม่เท่าการลงโฆษณา
5. การใช้ Google AdWords, Yahoo วิธีนี้จะคุ้มค่ากว่าค่ะ เพราะคุณจะได้คนที่สนใจ คนที่หาอยู่แล้วเข้ามา (เพราะเค้าเป็นคน serach งัยคะ) เค้ามีพื้นฐานความต้องการอยู่แล้ว แต่คุณเองก็ต้องมีความชำนาญ มีความรู้ในการตั้งค่าต่างๆ ใช้ข้อความที่ดึงดูด เพราะวิธีนี้หากลงมือทำโดยขาดความรู้ความชำนาญ ก็จะเสียเงินโดยไม่เกิดผลลัพท์ค่ะ
6. การปั่นเวปของเราให้ติดอันดับต้นๆใน Search Engine วิธีนี้ เมื่อมีคนทำการค้นหา เวปเราจะโชว์ขึ้นมา คล้ายกัยมี่เราโฆษณากับ Google AdWords นั่นแหละค่ะ ข้อแตกต่างที่สำคัญคือ รายชื่อที่ได้มา เราไม่ได้เสียเงินค่ะ และหากเราติดอันดับต้นๆของการ search หาแล้ว โอกาสที่คนจะหลั่งไหลเข้ามาดูเวปเราก่อนก็จะมีสูงมากค่ะ
7. การโฆษณากับคนที่อยู่ตามห้อง online สาธารณะ เช่น ใน camfrog, msn, skype วิธีนี้ โฆษณาเราจะน่าสนใจมากหากไปเจอคนที่สนใจ ดังนั้น คำโปรยต้องดี แต่ข้อเสียก็มี เพราะหากมีคนไม่พอใจเค้าก็จะใส่กลับมาเหมือนกัน วิธีนี้ใน camfrog ได้ผลสูงทีเดียว
8. การโฆษณากับ youtube : ใน youtube นั้น มีคนเป็นจำนวนมากเข้าไปในเวป แต่มีคนน้อยมากที่ทราบว่าทำการโฆษณาได้
9. การโปรโมทความเป็นมืออาชีพของเราให้เกิดความน่าเชื่อถือใน Social Network ต่างๆ วิธีนี้มีประสิทธิภาพมาก แต่ก็ต้องใช้เวลาและวิธีการที่ไม่ใช่การโฆษณา มิฉะนั้นแล้วคุณเองจะถูกลบออกไปไม่ต่างจาก Junk Mail เพราะเราเน้นการสร้างความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่โฆษณาสินค้าหรือธุรกิจ
หากคุณทำเครือข่ายอยู่แล้ว ลองเอาคำแนะนำนี้ไปลองทำดูตามความถนัดได้ค่ะ แต่อย่าลืมว่าต้องเป็นวิธี Attraction Marketing นะคะ แล้วคุณจะทำได้ทุกข้ออย่างรวดเร็ว ภายหลังจากการที่คุณ Brand ตัวเองแล้ว และเมื่อมีคนเข้ามาในระบบของคุณการทำธุรกิจของคุณก็จะลื่นไหลในทันทีค่ะ

สนใจเข้ารับข้อมูลเพิ่มเดิมเพื่อคลายความล้มเหลวในเครือข่ายคุณ กับการตลาดแบบ Attraction Marketing รับข้อมูลทาง ออนไลน์ฟรี โดยสามารถกรอกข้อมูลได้ที่ http://stop-failure-mlm.com/ หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ http://kusumamlmexpert.com/ ค่ะ

บทที่ 7 การ Brand ตัวเองให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ

ทบทวนกันก่อนนะคะ เรากำลังทำการตลาดแบบดึงดูด หรือ Attraction Marketing โดยการทำให้คนรู้จักเราก่อน จากนั้นก็สร้างความสัมพันธ์คุ้นเคยด้วย Email Marketing และสุดท้าย คุณก็เริ่มโปรโมทความเป็นมืออาชืพขอคุณให้เกิดความเชื่อมั่น

ก่อนอื่นนะคะ คุณต้องทราบด้วยว่าในการทำการตลาดแบบดึงดูดนั้น หากจะให้ได้ผลตอนนี้ (ยุคนี้) คุณควรทำการตลาดกับสังคมออนไลน์ค่ะ ดังนั้นคุณก็ควรใช้ระบบสนับสนุนที่มีอยู่ในสังคมออนไลน์ หรือ Social Network นั่นแหละค่ะ
คืออะไรบ้างเหรอคะ คุณทราบไหมคะ ว่าเวปใหนคนเข้าไปดู TV มากที่สุด youtube ค่ะ และสังคมในอินเตอร์เนตล่ะคะ facebook, hi5, myspace, tagged หรืออีกเยอะเลยค่ะ การ Post webboard ก็ใช่นะคะ

ที่นี้ในการดึงดูดให้คนเข้ามาสนใจ คุณก็ต้องสร้างความสัมพันธ์ค่ะ คุณต้องทำตัวให้น่าเชื่อมั่น หรือน่าคบนั่นเอง เมื่อมีคนเห็นว่าคุณน่าคบ น่าทำความรู้จักด้วย มีอะไรบางอย่างคล้ายๆกัน ซึ่งคุณเองก็ต้องทุ่มเทตรงนี้ด้วยนะคะ ในการสร้างความสัมพันธ์กับคนนั้น คุณเองก็ต้องกล้าโชว์ความเป็นตัวของคุณด้วย อะไรล่ะ รูปภาพคุณงัยคะ ขาดไม่ได้เลย เหมือนเวลาคุณอ่านหนังสือนิยายงัยค่ะ คุณจะเริ่มมีภาพตัวละครต่างๆในนั้น ทีนี้เมื่อคุณแสดงความมีตัวตนของคุณ เค้าเหล่านั้นก็ง่ายที่จะมาทำความรู้จัก ไม่ต้องลังเลมากนัก ว่าเอ คนนี้น่าคบมั๊ย และในการสร้างความสัมพันธ์นี้ จงอย่ากระทำการใดๆที่จะก่อให้เกิดความอึดอัดนะคะ เพราะคนเหล่านั้น จะเขี่ยคุณออกจากสารบบทันทีค่ะ

เช่น คุณเข้าไปที่ระบบ social network ซักตัว เอา Hi5 ได้ แล้วคุณก็ทำการขาย ขาย ขาย หรือโฆษณาธุรกิจของคุณทันที น่ารำคาญมั๊ยคะ ก็เหมือนตอนที่คุณไปไล่ล่าโทรศัพท์นั่นแหละค่ะ ผลก็เหมือนเดิม... ดังนั้น อย่าเชียวค่ะ

เราเปลี่ยนมาเป็นการสร้างความเชื่อมั่น (ว่าคุณคบได้!!) ด้วยการเริ่มต้นโปรโมทความเป็นมืออาชีพกันดีกว่าค่ะ ย้ำ โปรโมทตัวคุณนะคะ ไม่ใช่ธุรกิจ แล้วเราก็ควรเลือกที่จะโปรโมทในสิ่งที่จะแก้ปัญหาให้เค้า สิ่งต่างๆที่มีในระบบ ความสามารถ ความรู้ของคุณ ต้องแบบไม่เกินไปหรือโอ้อวดนะคะ จะเกิดการหมั่นไส้ ไม่น่าเชื่อถือค่ะ ดังนั้นจะให้ได้ผล ก็แสดงหลักฐานได้เลยค่ะ

ขั้นตอนนี้ ต้องใช้เวลานิดนึงนะคะ และบวกกับความตั้งบใจ ใส่ใจค่ะ และเมื่อขั้นตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผลลัพท์มหาศาลจะเกิดขึ้นแน่นอน

ในการเป็นมนุษย์แม่เหล็กของคุณนั้น หากคุณทำเครือข่ายอยู่แล้ว สร้างความสัพพันธ์กับคนในสายงานไว้มากๆนะคะ สิ่งนึงที่คุณได้จากการทำเครือข่าย แน่นอนอยู่แล้วคือการมี Relationship ใหม่ๆ คุณจะได้มีโอกาสพบปะคนต่างสายงานมากมาย นายแพทย์ นักธุรกิจ สถาปนิก เยอะแยะค่ะ เพราะว่าหากวันนึง คุณอาจจะได้เค้ามาเป็นเครือข่ายของคุณแบบไม่ต้องโปรโมทด้วยซ้ำค่ะ และข้อดีของคนเหล่านั้นคือ เค้ามีพื้นฐานการทำธุรกิจอยู่แล้วงัยคะ ทักษะของเค้าจะทำให้ระบบของคุณไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้นค่ะ

สนใจการตลาดแบบ Attraction Marketing รับข้อมูลทาง ออนไลน์ฟรี โดยสามารถกรอกข้อมูลได้ที่ http://stop-failure-mlm.com/ หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ http://kusumamlmexpert.com/ ค่ะ

วันพุธ

บทที่ 6 Email Marketing คืออะไร??

จากบทที่แล้ว คุณได้รับทราบแนวทางคร่าวของการสร้างรายชื่อของคุณเองแล้วนะคะ ทีนี้ หลังจากมีรายชื่อแล้วเราควรจะทำอะไรต่อไปล่ะ

จำโฆษณาประกันชีวิตที่เปรียบคนหาประกันเป็นแมลงสาบได้มั๊ยคะ แมลงสาบตัวนั้นเอาตัวไปคลุกคลีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน โดยความเต็มใจด้วยนะ เพราะทัศนคติที่ดีของแมลงสาบตัวนั้น ซึ่งจะคอยไปช่วยยกของแบกของด้วยความสงสารเด็กงัยคะ นั่นหมายความว่าคุณเองต้องมีทัศนคติ หรือมีวิธีสร้างทัศนคติที่ดีด้วย และนี่คือหัวใจต่อมานะคะ เราเรียกกันว่า “การติดตามผล” ค่ะ

ในอดีต การติดตามผลส่วนใหญ่คือการโทรศัพท์ สวัสดีค่ะ ดิฉันคือ ..... มีทั้งแบบดุๆ เด็ดขาด หรือแบบนิ่มๆโน้มน้าวตามแต่จะถนัด ลองนึกภาพตัวคุณนะคะ ทานข้าวอยู่บ้าง ทำงานอยู่บ้าง อยู่กับเจ้านายบ้าง หรือกำลังจะพาลูกเข้านอนบ้าง คุณรู้สึกอย่างไรกับโทรศัพท์เหล่านั้น... ค่ะ รำคาญ เบื่อ แล้วก็ลืมไปเลยว่าคุณนั่นแหละเป็นคนเคยกรอกข้อมูลเข้าไป คนที่โทรเข้ามา แม้จะมีสคริปต์สุดยอดก็แล้วเถอะค่ะ แต่พอไปทำการโทรติดตามผิดเวลาก็ถูกพาลโกรธ เผลอๆโดนด่าด้วย จริงมั๊ยคะ? และแล้วเราก็สูญเสียรายชื่อที่หามาได้ยากลำบากและมีค่า (ซื้อมาเท่าไหร่ล่ะ) นั้นไป

แล้วถ้าเป็นการติดตามผลแบบพร้อมให้ติดตามล่ะคะ .... ยังงัยล่ะ ... จากหัวข้อเรื่องวันนี้งัยคะ Email Marketing ค่ะ เราเองเป็นคนที่เมื่อว่างจึงเช็คเมล์ที่เข้ามา ถูกต้องมั๊ยคะ นั้นหมายความว่า ระบบ Email Marketing ถูกออกแบบมาให้คนที่พร้อมให้ติดตามผล ถูกติดตามค่ะ!! ถูกที่ ถูกเวลากว่ามั๊ยคะ และมีเปอร์เซ็นต์ต่ำมากค่ะที่จะสูญเสีย เพราะเราจะทำกันแบบถูกวิธีค่ะ เป็นการสานความสัมพันธ์ให้เกิดความคุ้นเคยค่ะ

การติดตามผ่าน Email Marketin เป็นการติดตามที่มีประสิทธิภาพ เราเองไม่ต้องวุ่นวายกับการหาที่หลบซ่อนเจ้านายไปโทรศัพท์ เพราะระบบของ Email Marketing จะถูกส่งออกไปโดยอัตโนมัติค่ะ และเมื่อถึงจุดๆหนึ่ง เค้าเหล่านั้นจะเป็นผู้ติดต่อคุณเข้ามาเอง ไม่ว่าจะโทรเข้ามา หรือส่ง Email มาสอบถามเพิ่มเติมค่ะ
ง่ายกว่าไหมคะ? ช่วยได้มากเลยด้วยสำหรับคุณที่เป็นมือใหม่ เอาเวลาไป Promote ตัวคุณอย่างเดียว ที่เหลือให้ระบบ Email Marketing ติดตามค่ะ และคุณยังสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมในแบบที่ระบบที่คุณสร้างไว้ให้กับเค้าได้เลยเช่นกัน เช่น ดิฉันจะส่ง Blog นี้ให้คุณอ่านค่ะ ถ้าคุณได้รับข้อมูลจากการPromote ของดิฉัน นั่นคือดิฉันกำลัง Brand ตัวเองให้คุณรู้จัก จริงมั๊ยคะ

และยังสามารถทำให้ผู้ที่บังเอิญเพียงสงสัยว่าสิ่งที่คุณ Promote อยู่ในเวป (หรือในทุกวิธีที่คุณสร้างรายชื่อ) คืออะไร เค้าก็จะถูกติดตามผลไปโดยอัตโนมัติค่ะ ลองนึกภาพนี้นะคะ คุณกำลังเบื่อๆ งานเสร็จแล้ว หรืออยากพักสายตา พักสมอง คุณผ่านเข้าไปที่เวปบอร์ด คุณคลิ๊กเข้าไปอ่านเวปที่ดิฉัน Promote ไว้ คุณกรอกข้อมูลและกำลังอ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ มีเหตุต้องทิ้งหน้าจอ เพราะมีกิจอื่นต้องไปทำ คุณปิดเครื่อง.... แล้วถ้าคุณยังอยากรู้ต่อ แต่ไม่ได้จดลิงค์ดิฉันไว้ ... จบกัน...ใช่มั๊ยคะ

แต่ไม่หรอกค่ะ ด้วยระบบที่ Email Marketing ที่ใช้อยู่ รุ่งขึ้นจะมีเมล์จากดิฉันไปทักทายคุณค่ะ!! เป็นการสร้างสัมพันธ์แบบต่อเนื่องเหมือนแมลงสาบตัวนั้นงัยคะ

แต่ระบบ Email Marketing ก็ยังเป็นเพียงการติดตามผลนะคะ หัวใจหลักก็จะยังเป็นคุณค่ะ คุณที่ Brand ตัวเองไว้เป็นผู้เชี่ยวชาญ เพราะนั่นเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือในตัวคุณต่ะ เป็นการความสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นก่อน ก้อแหม... จะมาทำธุรกิจด้วย ต้องใช้อีกหลายปัจจัยนะคะ

แล้วหน้าที่ต่อไปของคุณ ซึ่งเคยรู้สึกว่ายากมากๆในอดีตคือการปิดการขายและรับสมัครคน จะเปลี่ยนไปทันที เพราะด้วยหลักการตลาดแบบดึงดูดนี้ คุณได้ดึงดูดเค้าเหล่านั้นมามากกว่าครึ่งแล้วค่ะ หน้าที่คุณไม่ใช้การโน้มน้าวอย่างที่เคยบอกไว้ จำได้มั๊ยคะ แต่หน้าที่คุณคือการเลือกคนที่ใช่ค่ะ

ใครคือคนที่ใช่ คนที่จริงจังและพร้อมเรียนรู้ในทันทีค่ะ หากคุณดูแล้วว่าเค้ายังไม่จริงจัง ก็ปฏิเสธในการเข้าร่วมกับเราไปได้เลยค่ะ เพราะจะเป็นการเสียเวลาเปล่ากับคนที่ไม่จริงจัง และขอให้สอนการตลาดแบบเดียวกันนี้ให้กับคนที่มาเข้าร่วมกับคุณนะคะ การรับคนเข้ามาให้เยอะๆๆๆๆ ก่อน แล้วสอนงาน เหนื่อยค่ะ เค้าเองก็คาดหวังรายได้ แต่เค้าไม่ทำ เอาแต่พร่ำบ่น เครียดมั๊ยล่ะคะ

เห็นหรือยังค่ะ คุณเปลี่ยนจากผู้ไล่ล่าเป็นผู้ที่ถูกคนตามล่าแล้วค่ะ น่าตื่นเต้นกว่ามั๊ยคะ
บทต่อไปเราจะมาเรียนรู้ การ Brand ตัวเองกันค่ะ ว่าการ Promote ความเป็นมืออาชีพให้คนเชื่อมั่นในตัวเราทำอย่างไรค่ะ

ดูตัวอย่างระบบบางส่วนได้ที่นี่ค่ะ http://stop-failure-mlm.com/ หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ http://kusumamlmexpert.com ค่ะ

วันจันทร์

บทที่ 5 มนุษย์แม่เหล็ก!?!

เราก็ได้เรียนรู้กันแล้วว่าข้อดีมากมายในการทำธุรกิจแบบ Attraction Marketing หรือการทำระบบการตลาดแบบดึงดูดในธุรกิจเครือข่ายดีอย่างไรแล้ว สิ่งต่อไปก็คือ วิธีการที่เราจะนำมาใช้อย่างเหมาะสมและให้ได้ผล ทำอย่างไร....

จากบทความก่อนหน้า คุณคงเห็นด้วยแล้วล่ะ ว่า การทำตลาดแบบดึงดูดของเราจะประสพผลเมื่อเราทการโปรโมทการเป็นมืออาชีพของเราด้วย ผลก็คือทำตัวเป็นมนุษย์แม่เหล็กนั่นเอง สร้างตัวเองขึ้นมาให้เป็นที่รู้จัก แนะนำ วิธีการที่สำเร็จผลโดยวิธีการที่ทำได้จริง จนคนรู้จักเราในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ หรือเป็น Expert เมื่อเราทำสำเร็จ เราก็เปรียบเสมือน มนุษย์แม่เหล็กนั่นเอง แล้วที่นี้เราก็เลือก ว่าจะดึงดูดอะไรในอดีตนั้น การทำธุรกิจเครือข่าย สิ่งแรกที่ Upline คุณบอกให้ทำก็คือ การสร้างรายชื่อผู้มุ่งหวังใช่มั๊ยคะ มาเลยค่ะ เข้าห้องประชุมกัน เอ้า เขียนรายชื่อมาเลย ใครไวสุดรับรางวัลไป เป็น Product นั่นแหละ บ้างก็สมุดโน๊ต (เค้าก็ให้คุณไว้ใส่รายชื่ออีกเหมือนกันค่ะ) ทีนี้ เค้าก็จะบอกคุณว่าเริ่มที่คนรู้จักก่อนนะ นึกง่ายๆว่าหากคุณจะแต่งงานเดือนหน้า คุณจะเชิญใครมางานบ้าง หรือดูในโทรศัพท์คุณได้เลยค่ะแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างคะ เวลาคุณติดต่อเค้าเหล่านั้นไป...

ถ้าปรกติโทรหากันประจำอยู่แล้วก็แล้วไปเถอะ เค้าอาจจะงงๆนิดหน่อยว่าเอ..วันนี้มาแปลก พูดเรื่องอะไรอยู่เนี่ย แต่กับคนที่นานๆ คุณจะโทรไป แถมคุณก็ยังอึกๆอักๆอีก ยิ่งกับคนที่เค้ามีทัศนคติไม่ค่อยดีอยู่แล้วกับเรื่องพวกนี้ ...คุณกำลังจะเสียเค้าไปแล้วค่ะทั้งๆที่คุณรู้สึกว่า เอ..เราก็แค่อยากให้รู้จักสิ่งดีๆที่เรารู้มานี่นาข้อนึงนะคะธุรกิจส่วนใหญ่ที่ให้คุณรีบร้อน list รายชื่อแล้วให้คุณรีบติดต่อนั้น คุณเองทราบทุกเรื่องในสิ่งที่คุณจะเอาไปบอกต่อเค้าหรือยังคะ ...ไม่หรอกค่ะ จริงมั๊ย ต่อให้คุณมี upline ช่วยเหลือ แต่คุณเองต่างหากที่ควรรู้ให้มากที่สุดก่อนเพราะเค้าเป็นคนที่คุณรู้จัก แต่ก็ไม่มีระบบที่คุณจะเรียนรู้ด้วยตัวเองทั้งหมดได้ในเวลาที่คุณอยากรู้ เลิกงานเย็น กว่าจะป้อนข้าวลูก พาเข้านอน เอ... ก็ว่างพร้อมเรียนตอนหลังสามทุ่มนี่นา.... ไม่ได้ค่ะ! คุณต้องรอให้มีการประชุม พาตัวเองเข้าไป บางครั้งต้องลางาน เปลี่ยนกะ แล้ว จด..จด...จด.. ทีนี้รายชื่อคน 100 คนนั้นกับการรีบร้อนเรียนรู้ รู้บ้างไม่รู้บ้าง ก็แทบจะกลายเป็น 100 คนแรกที่คุณไล่เค้าออกไปจากชิวิตคุณแทน

เรามาดูวิธีอื่นๆกันค่ะ ใช้เงินโฆษณา ใช้เงินซื้อรายชื่อ ไม่ใช่ถูกๆนะคะ แล้วใช่ว่ารายชื่อเหล่านั้นจะใช้ได้ไปซะทั้งหมด มาที่การ spam mail อันนี้ผิดกฎหมาย ต้องระวังค่ะ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา คุณต้องใช้ทั้งเวลา ใช้ทั้งงบประมาณ เหนื่อยกับการโทรศัพท์ติดตามผลครั้งแล้วครั้งเล่า เวลาหมดไปเรื่อยๆ พร้อมจำนวนเงิน ใหนจะต้องสร้างรายได้ด้วย ไหนจะการประชุมอีกล่ะ เอ....มาถึงบรรทัดนี้ อิสภาพทางด้านเวลาอยู่ตรงใหน หรือเมื่อไหร่จะถึงเวลาคะ

ข่าวดีค่ะ... การสร้างรายชื่อของระบบ Attraction Marketing หมายถึงการที่คุณเป็นมนุษย์แม่เหล็กที่ทำให้รายชื่อของคุณมีความเชื่อมั่นในตัวคุณ แล้วไม่ว่าคุณจะขยับตัวไปทางใหนเขาเหล่านั้นจะตามคุณไปเองค่ะ คุณจะไม่ต้องเสียเวลากับการโฆษณาธุรกิจหลากหลายด้าน เพราะคุณต่างหากที่เค้าควรจะเชื่อมั่น แล้วจึงมองตัวธุรกิจ งานของคุณจึงแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง จากการสร้างรายชื่อผู้ที่สนใจธุรกิจนั้นๆ แต่มาเป็นการสร้างรายชื่อของคนที่ต้องการเรียนรู้วิธีการทำธุรกิจให้สำเร็จ เพราะหากคุณเพียงสมัครเพื่อให้ได้เขาเข้ามาก่อน คุณจะมีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก ในการที่เขาเหล่านั้นจะเริ่มต้นทำงานสร้างเครือข่ายไปกับคุณ แต่หากเป็นผู้คนที่คอยติดตามความเป็น Expert ของคุณ เมื่อเขาก้าวเข้ามา นั่นย่อมหมายความว่าเขาเหล่านั้น พร้อมจะเรียนรู้และปฏิบัติจริงไปด้วยค่ะ การสูญเสียคนจึงเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำมากในการทำงานเชิงปฏิบัติ เพราะการทำงานในเชิงนี้ เราจะคุยกับผู้ที่สนใจ ไต่ถามกันก่อนถึงเหตุผล อะไร ทำไมเค้าจึงอยากก้าวเข้ามา เห็นมั๊ยคะ เรายิ่งหนี เค้ายิ่งตาม ไม่ใช่เล่นตัวค่ะ แต่เราเป็นฝ่ายหาคนที่ใช่ ไม่ใช่ไล่ล่าใคร

อ่านมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกเปลี่ยนมั๊ยคะ? และคนที่เรารับเข้ามา จะเป็นคนที่มีคุณภาพด้วยค่ะ เราพร้อม เค้าพร้อม ไปด้วยกันค่ะ

ครั้งหน้า มาดูกันนะคะว่า เราจะมีวิธีใดที่จะทำให้เขาเหล่านั้นหาเราเจอค่ะ

ดูตัวอย่างระบบบางส่วนได้ที่นี่ค่ะ http://stop-failure-mlm.com/ หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ http://kusumamlmexpert.com ค่ะ